Good Story
ธัญญาพาร์ค แนะเมนูผัก-สมุนไพร 4 สี
หากพูดถึง “ผัก-สมุนไพร” ในประเทศไทย จัดได้ว่ามีมากมายหลายชนิดให้เลือกรับประทานได้ทุกฤดูกาล อีกทั้งปัจจุบันคนไทยหันมานิยมรับประทานผักกันเพิ่มมากขึ้น ด้วยกระแสการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งในผักและสมุนไพรต่างๆ ล้วนมีคุณประโยชน์ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง อีกทั้งสามารถนำมาทำเป็นเมนูหลักได้หลากหลาย หรือจะเลือกรับประทานเป็นเครื่องเคียงก็ได้ตามความเหมาะสมของเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมา ล่าสุด ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ร่วมกับร้านอาหารดังในตำนาน จัดเมนูสุดยอดผัก-สมุนไพร 4 สี “ขาว-ดำ-แดง-เขียว” มาเสิร์ฟให้คนรักสุขภาพได้ลองชิมลอง
ร้านนิตยาไก่ย่าง นำเสนอ 2 เมนูเด็ด เริ่มด้วย “สีขาว” “ยอดมะพร้าวอ่อนผัดกุ้ง” ซึ่งพระเอกของจานนี้คือ “ยอดมะพร้าวอ่อน” จัดเป็นของที่หายาก เพราะต้องใช้วิธีเก็บโดยการปีนไปตัดเอาแกนกลางสีขาวของยอดต้นมะพร้าวออกมา อีกทั้งในมะพร้าว 1 ต้น จะมีเพียง 1 ยอดเท่านั้น โดยคุณสมบัติเด่นของยอดมะพร้าวคือ มีรสชาติหวานกรอบ อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ อย่างฟอสฟอรัส และแคลเซียม ซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน และฟันผุ เหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องการปริมาณแคลเซียมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการดูแลสุขภาพและรูปร่าง เพราะยอดมะพร้าวอ่อนทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน สำหรับวิธีการทำเมนูยอดมะพร้าวอ่อนผัดกุ้งนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงนำยอดมะพร้าวอ่อนมาหันตามยาว ขนาดพอดีคำ ไม่ควรเกิน 1 นิ้ว และไม่บางจนเกินไป เพราะมะพร้าวอ่อนนั้นสุกง่าย เมื่อหันเสร็จควรแช่ด้วยน้ำเกลือเพื่อคงความขาว จากนั้นนำไปผัดพร้อมกุ้ง และปรุงรสตามความต้องการ นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่ยังนิยมนำมาทำเป็นแกงต่างๆ เช่น แกงเขียวหวาน หรือแกงอ่อมด้วย
ถัดมากับเมนู “สีดำ” “แกงลาวเห็ดเผาะ” ซึ่งมี “เห็ดเผาะ” ที่จัดว่าเป็นราชินีแห่งเห็ดในเมืองไทยเป็นส่วนประกอบหลัก ด้วยคุณลักษณะเด่นที่ทำให้นักชิมหลายต่อหลายคนติดใจคือ มีรูปร่างกลม สีน้ำตาลดำ ด้านในกลวง เวลาเคี้ยวจะดังเผาะ จึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว ให้รสชาติมัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการรักษาอาการช้ำใน วัณโรค แก้ร้อนใน แก้หวัด รวมไปถึงการยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี วิธีทำแกงลาวเห็ดเผาะนั้น จะนำเห็ดเผาะมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนำน้ำใบย่านางตั้งไฟให้เดือด ใส่พริกแกงสูตรพิเศษของร้าน ตามด้วยใส่เห็ดเผาะ ต้มจนเห็ดสุก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือ น้ำปลาร้า ตามด้วยผักต่างๆ อาทิ ชะอม ผักหวาน รอจนสุกก็พร้อมเสิร์ฟได้ทันที
ส่วนเมนู “สีแดง” จากภัตตาคารเชียงการีลา โกลด์ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด กับ “หมูผัดซอสพริกชี้ฟ้า” ที่นำ “พริกชี้ฟ้า” มาเป็นเครื่องปรุงหลัก ซึ่งนอกจากคุณสมบัติของพริกชี้ฟ้าที่ช่วยเสริมรสชาติความกลมกล่องให้กับอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงธาตุต่างๆ ภายในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของระบบไหลเวียนของเลือด ที่สำคัญคือช่วยในระบบย่อยอาหาร และช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ซึ่งในเมนูนี้มีขั้นตอนและวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากแต่ต้องอาศัยความชำนาญ โดยเริ่มจากการนำหมูมาหันเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมพอดีคำ คลุกแป้งข้าวโพด และนำไปทอดจนเหลืองกรอบด้วยไฟแรง เพื่อไม่ให้หมูอมน้ำมัน จากนั้นนำมาพักจัดใส่จาน ขั้นตอนต่อมาคือการทำน้ำซอส เริ่มที่ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่ซอสพริกชี้ฟ้าสูตรจากทางร้านหรือซอสพริก ปรุงรสตามความต้องการให้มีรสชาติ เผ็ด เค็ม หวาน และนำพริกชี้ฟ้า หอมหัวใหญ่ สับปะรด หั่นสี่เหลี่ยม ลงไปผัด และนำมาราดบนหมูทอดกรอบ เป็นอันเสร็จขั้นตอน
ปิดท้ายด้วยเมนูเบาๆ กับ “กรีนทูน่าสลัด” ที่มี “สีเขียว” จากภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นโตไก จัดเป็นเมนูทานเล่นในมื้อเย็น ได้ทั้งประโยชน์และไม่หนักท้องจนเกิดไป เพราะมีผักสีเขียวเป็นส่วนประกอบหลักถึง 3 ชนิด ได้แก่ กรีนโอ๊ค ราชาแห่งผักสลัด ที่หลายคนนิยมทานสดเพราะมีวิตามินบี และวิตามินซีสูงมาก อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาท และกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี บล็อกเคอรี่ ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน และสารเคมีทางธรรมชาติ อย่าง ซัลโฟราเฟน และอินดอล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็ง และ แตงกวาญี่ปุ่น ถือเป็นผักที่ช่วยในการดีท็อกซ์สารพิษ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เพราะในแตงกวาญี่ปุ่น จะมีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะกับการรับประทานแบบดิบเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ วิธีทำนั้นแสนง่ายเพียงแค่นำผักทั้ง 3 ชนิดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำผักกรีนโอ๊คมาจัดลงจาน ตามด้วยการนำแตงกวาญี่ปุ่นหันเป็นแว่น และปิดท้ายด้วย บล็อกเคอรี่ต้มสุข และทูน่า ราดด้วยน้ำสลัดสูตรพิเศษจากทางร้าน ซึ่งเมนูนี้มีเคล็ดลับอยู่ว่า บล็อกเคอรี่ที่ต้มสุขแล้วต้องนำมารับประทานทันที เพราะหากทิ้งไว้สารอาหารต่างๆ จะหายไป