Good Story
“eco & sustainable” สร้างด้วยหัวใจ ส่งเสริมให้ ธัญญาพาร์ค โตอย่างยั่งยืน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลายองค์กรทั่วทุกมุมโลกได้ให้ความสำคัญในเรื่องพลังงาน สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นเพียงนามธรรมที่พูดกันลอยๆ หรือแค่หยิบยกมาเป็นเทรนด์ทางการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้สวยหรูอีกต่อไป แต่ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นหัวใจของการพัฒนาระดับชุมชน ระดับประเทศ และระดับโลก ที่ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ที่นำแนวคิด “eco & sustainable” มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณสุนันทา สมบุญธรรม ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กล่าวว่า “ภายในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาหลายภาคส่วนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงาน สิ่งแวดล้อม ที่จะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนกันอย่างจริงจัง เพราะถ้าสังเกตให้ดีทั้งประเทศไทยและต่างประเทศต่างต้องเผชิญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งปัญหาขยะ อุณหภูมิที่ร้อนขึ้น มลพิษ พายุฝน และอีกมากมาย จึงก่อให้เกิดเป็นการจัดทำแผนความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ขึ้น อาทิ การจัดทำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แผน15 ปี (Sustainable Development Goals - SDGs) โดยสหประชาชาติ เพื่อนำประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านต่างๆ รวมถึงการนำหัวข้อเรื่องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติไปสอดแทรกในการกำหนด เทรนด์โลก เป็นประจำทุกปี และการจัดทำแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ก็เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแนวความคิดเรื่อง eco ไม่ได้เป็นเทรนด์ที่แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เป็นหัวใจของการพัฒนาโลกให้เกิดความอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ที่นำแนวคิดเรื่อง “eco & sustainable” มาใช้เป็นหัวใจหลักในการบริหารศูนย์การค้าเพื่อให้เกิดความยั่งยืนตั้งแต่แรกเริ่มและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับชุมชน โดยได้วางคอนเซ็ปต์ให้เป็นศูนย์การค้ารักษ์โลก หรือ ECO Shopping Mall เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือประเทศไทยในการอนุรักษ์พลังงานและเป็นต้นแบบองค์กรสีเขียว ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงผลกำไรจากการลงทุนมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ต้องการให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานที่สถาบันการศึกษา หน่วยงานต่างๆ และทุกคนในชุมชนสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งต้องการให้เป็นศูนย์การค้าที่ช่วยปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์พลังงานแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานออกเป็น 2 แนวทาง ดังนี้
แนวทางแรก คือ ด้าน “Structure” หรือ “โครงสร้างอาคาร” ถูกออกแบบให้เป็นอาคารสีเขียว (Green Building) ถือเป็นกระบวนการคิดตั้งแต่การวางผังอาคารบนพื้นที่กว่า 70,000 ตร.ม. ออกแบบให้มีการวางอาคารแบบกระจายตัว เพื่อเปิดช่องรับลมธรรมชาติ ทำให้มีกระแสลมผ่านตัวอาคารตลอดทั้งปี พร้อมทั้งนำนวัตกรรมประหยัดพลังงานเข้ามาใช้ในการก่อสร้าง อาทิ กระจก Low – E ลดปริมาณความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร การจัดสวนแนวตั้ง ลดการรับแสงแดดและการสะท้อนของแสงช่วงกลางวัน และภายในตัวอาคารทั้งหมดจะถูกควบคุมและตรวจสอบด้วยนวัตกรรมการจัดการพลังงาน ที่คอยคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ แต่ละช่วงเวลาของวัน รวมถึงการนำนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี (Nano Technology) มาใช้ในโถปัสสาวะชายเพื่อลดการใช้น้ำแบบ 100% ควบคู่ไปกับนวัตกรรมการบำบัดน้ำเสียและบ่อกักเก็บน้ำฝนเพื่อนำมาใช้ในการดูแลสวนและงานภายนอกทั่วไป พร้อมด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์โดยติดตั้งแผงโซล่าเซลส์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แสงสว่างยามค่ำคืนหลังปิดให้บริการ
ทั้งนี้ องค์กรมีแผนดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาศูนย์การค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพทางการอนุรักษ์พลังงานอย่างเต็มที่ ล่าสุดเตรียมเปลี่ยนหลอดไฟฟ้า ทั้งศูนย์การค้ามาเป็นหลอด LED เพื่อเพิ่มแสงสว่างและลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ทั้งสิ้นจำนวน 6,105 หลอด ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดปริมาณค่าไฟฟ้าของแสงสว่างได้เพิ่มถึง 60-65 % ต่อปี คิดเป็นมูลค่า 1,871,724.93 บาท
แนวทางต่อมาคือ ด้าน “Event” หรือ “กิจกรรม” ที่ตลอดทั้งปีศูนย์การค้าจะแบ่งรูปแบบกิจกรรมออกเป็น กิจกรรมทางการตลาดทั่วไปประมาณ 40% และอีก 60% จะเป็นกิจกรรมในรูปแบบ eco & sustainable สอดแทรกข้อมูลและเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และความยั่งยืนของชุมชม โดยมุ่งเน้นให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้มาร่วมงานได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรม “อโกรา ฟาร์เมอร์ส มาร์เก็ต” การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ปราศจากยาฆ่าแมลง กิจกรรม “ธัญญาพาร์ค ฟรุตตามิน เฟสติวัล” เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรไทยนำผลไม้ปลอดสารเคมีมาจำหน่ายตรงกับผู้บริโภคในราคาหน้าสวน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนเกษตรกรไทยให้ทำการเกษตรอย่างยั่งยืนไม่พึ่งพาสารเคมีในการเพาะปลูก และกิจกรรม “ฟาร์มเด็ก ฟาร์มดี” เป็นกิจกรรมวันเด็กที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจะมีการสอดแทรกเนื้อหาเรื่องเกษตรพอเพียงให้เยาวชนในเมืองหลวงได้เรียนรู้และลองลงมือทำ ทั้งการทำนา การเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
คุณสุนันทา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคกับการเลือกใช้สินค้าและบริการไม่ได้พิจารณาแค่คุณสมบัติของสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการเพียงอย่างเดียว แต่พิจารณาไปถึงนโยบายขององค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมในด้านต่างๆ ทั้งการอนุรักษ์พลังงาน สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงชุมชน เพราะการเลือกสินค้าหรือบริการ เปรียบเสมือนการได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมสิ่งดีๆ ที่องค์การนั้นได้ปฏิบัติด้วย”
สำหรับองค์กรต่างๆ ที่สนใจเข้าชมนวัตกรรมประหยัดพลังงานของศูนย์การค้าฯ หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ โทร. 02-108-6000 และติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thanyapark.com หรือ www.facebook.com/thanyapark